วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

เทพสามฤดู

เทพสามฤดู เป็นนิทานพื้นบ้านของไทย ปรากฏเป็นหนังสือครั้งแรก โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์วัดเกาะ เคยถูกสร้างเป็นละคร ในปี 2517 ในชื่อ ฝนสามฤดู ส่วนในปี 2530,2546  และ 2560 ใช้ชื่อว่า เทพสามฤดู

                             
                                     



เรื่องย่อ

เทพทั้งสามคือ ราหู พิรุณ และจินดาเมขลา ถูกองค์อิศราส่งลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ตามคำขอของท้าวตรีภพและมเหสี แต่เนื่องจากท้าวตรีภพขอลูกเพียงคนเดียว เทพทั้งสามจึงมาเกิดในร่างเดียวกัน สับเปลี่ยนกันตามฤดูกาล มเหสีมณีตั้งครรภ์นาน 5 ปี ท้าวตรีภพจึงทำพิธีขอต่อองค์อิศราให้มีประสูติกาล เนื่องจากขณะนั้นเป็นฤดูร้อนเทพราหูจึงปรากฏร่างเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ แต่มีเขี้ยวเป็นยักษ์ เป็นเหตุให้ท้าวตรีภพกริ้วมากสั่งให้นำไปลอยแพ ระหว่างทางงั่งเกิดมาพบกับราหูเข้า คิดจะเข้าไปจับกิน แต่พระฤๅษีมาช่วยเอาไว้ และสอนคาถาให้ราหูใช้กำกับงั่งไว้เป็นบริวาร จากนั้นได้พาไปอยู่ด้วยและสอนวิชาให้

ฝ่ายมเหสีมณีถูกทัศนีย์มเหสีฝ่ายซ้ายใส่ร้ายว่าเป็นชู้กับยักษ์ จึงถูกท้าวตรีภพเนรเทศ มเหสีทัศนีย์สั่งให้ทหารฆ่ามณีทิ้งแต่ยักษ์สุระผัด และ ลิงนันทะเสน มาพบ เข้าช่วยนางเอาไว้ได้ แต่ทั้งสองก็กลับต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงนาง พระฤๅษี(อีกตนหนึ่ง)ได้ปรากฏตัวห้ามทั้งสองและเล่าเรื่องของมณีให้ฟัง สุระผัดและนันทเสนรู้สึกเสียใจที่คิดไม่ดีกับมณี สัญญาว่าจะช่วยเหลือนางและถือว่ามณีเป็นน้องสาว มณีอยู่รับใช้พระฤๅษีที่อาศรม

เทพทั้งสามหลังจากเรียนวิชาจากพระฤๅษีแล้วก็เกิดคิดถึงแม่ เนื่องจากพิรุณและจินดาเมขลายังไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยนับแต่เกิดมา พระฤๅษีจึงขออาวุธจากองค์อิศรามอบให้เทพทั้งสามไว้ป้องกันตัว ราหูได้กระบองแก้ว พิรุณได้พระขันฑ์ และจินดามีลูกแก้ววิเศษ นอกจากนี้ก็ได้ให้งั่งติดตามไปด้วยเพื่อคอยดูแล เทพทั้งสามจึงออกเดินทางไปตามหาแม่ ระหว่างทางราหูได้พบกับถ้ำเก็บสมบัติที่มียักษ์สองตนเฝ้าอยู่ งั่งโลภมากหยิบเอาสมบัติในถ้ำออกมา ทำให้ถูกยักษ์เฝ้าสมบัติตามล่า ทั้งสองจึงต้องกลับเอาสมบัติไปคืน ขณะที่กำลังจะเข้าไปในถ้าพบกับวิทยาธรจะแย่งเอาสมบัติจึงต่อสู้กัน ราหูฆ่าวิทยาธรนั้นตาย

ราหูและงั่งเดินทางมาด้วยกันระหว่างทางเจอกับนันทเสนและ เกิดการต่อสู้กัน งั่งอยากเป็นอิสระ ไม่ยอมช่วยราหู องค์อิศราจึงให้เทพมาตุลีลงมาช่วย มาตุลีเสกเชือกคาถามัดนันทเสนไว้และชี้ทางให้ราหูเดินทางไปพบกับแม่ ราหูเดินทางไปพร้อมกับงั่งและนันทเสนจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูหนาว จึงเปลี่ยนร่างเป็นจินดาเมขลา นันทเสนแปลกใจที่เด็กน้อยสามารถเปลี่ยนร่างได้ตามฤดูกาล เมื่อเดินทางไปตามที่มาตุลีบอก ก็ไปถึงอาศรมของพระฤๅษีที่มณีอาศัยอยู่ด้วย มณีเห็นจินดาเมขลาก็นึกเอ็นดูอยากเลี้ยงไว้เป็นลูก พระฤๅษีนั่งในดูความเป็นมาของจินดาจึงรู้ความจริงว่าจินดาคือลูกที่แท้จริงของมณี สองแม่ลูกดีใจที่ได้พบกัน

จินดาบอกกับแม่ว่าน่าจะเดินทางกลับไปหาพ่อ เพื่อแสดงความบริสุทธ์ มณีก็เห็นด้วย จึงกราบลาพระฤๅษีเพื่อเดินทางกลับบ้านเมือง มีงั่งเดินทางไปด้วย ในระหว่างเดินทางนั้นได้ผ่านป่าซึ่งใกล้กับเมืองอนันตลีวรรณ ซึ่งเป็นเมืองยักษ์ มีท้าวอนันตวงศ์ครองเมือง มเหสีชื่อโชตะนา ท้าวอนันตวงศ์และโชตะนาถอดหัวใจไว้ที่แมลงภู่ซึ่งอยู่ในถ้ำนิลคูหา ทำให้ฆ่าไม่ตาย ขณะที่ท้าวอนันตวงศ์เดินทางไปให้อาหารแมลงภู่พร้อมกับคนสนิทได้พบกับมณีและจินดา ตอนแรกตั้งใจจะจับกินเป็นอาหาร แต่เมื่อเห็นความงามของมณีก็อยากได้ไปเป็นชายาอีกคนหนึ่ง จินดาใช้ลูกแก้ววิเศษขับไล่ท้าวอนันตวงศ์ไป ท้าวอนันตวงศ์แม้จะบาดเจ็บแต่ก็สามารถลักพาตัวมณีไปด้วยได้ จินดาจึงต้องออกติดตามไปช่วยแม่

ที่เมืองยักษ์มเหสีโชตะนารู้เรื่องที่ท้าวอนันตวงศ์พานางมนุษย์กลับมา เพื่อยกย่องเป็นชายาอีกองค์ก็โกรธมาก บังคับให้ท้าวอนันตวงศ์เลือก ท้าวอนันตวงศ์เลือกมณี โชตะนาแค้นใจจึงไปหาพี่ชายคือท้าวจักรวรรดิซึ่งตกพุ่มม่ายมาหลายปีและมีลูกชายชื่อปราบไตรจักร โชตะนาบอกกับท้าวจักรวรรดิว่านางมนุษย์ทีท้าวอนันตวงศ์จับมานั้นมีความงามยิ่งนัก เหมาะจะเป็นมเหสีของท้าวจักรรวรรดิ ให้ท้าวจักรวรรดิไปทูลขอจากอนันตวงศ์ ซึ่งคงจะเกรงใจและยกให้แต่โดยดี เป็นการกำจัดมณีให้แก่นางอีกทางหนึ่งด้วย ท้าวจักรวรรดิตกลง ระหว่างที่เดินทางนั้นได้พบกับจินดาและงั่งทั้งสองก็คิดจะจับกิน จินดาใช้ลูกแก้ววิเศษออกมาต่อสู้ แต่ไม่สามารถต้านทานอิทธิฤทธิ์พัดชีวิตของจักรวรรดิได้ เนื่องจากพัดนี้เมื่อใช้โบกไปที่ใครจะทำให้วิญญาณออกจากร่างเหมือนคนตาย แต่ถ้าโบกอีกครั้งก็จะสามารถคืนชีวิตให้ได้ จินดาและงั่งถูกทำร้ายนอนนิ่งเหมือนคนตาย ท้าวจักรวรรดิแย่งเอาลูกแก้ววิเศษไปและนำศพของทั้งสองไปเก็บไว้

ด้านมณีพยายามจะหนีออกจากที่คุมขังของท้าวอนันตวงศ์โดยใช้ระฆังแก้วหวังจะเรียก สุระผัด และ นันทเสนมาช่วย แต่ก็ถูกท้าวอนันตวงศ์แย่งไปได้อีก ท้าวจักรวรรดิขอประทานมณีแต่อนันตวงศ์ไม่ให้ ทั้งสองจึงออกไปต่อสู้กัน ท้าวอนันตวงศ์สู้ฤทธิ์ของพัดชีวิตไม่ได้ จึงนำระฆังแก้วออกมาสั่นโดยเข้าใจว่าเป็นอาวุธวิเศษ เสียงจากระฆังแก้วเรียกสุระผัด และนันทเสนมาถึง ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าต่อสู้กัน ฝ่ายของมณีเป็นฝ่ายชนะสามารถแย่งพัดชีวิตมาได้ แต่โชตะนานำจินดาและงั่งออกมาต่อรอง มณีจึงปล่อยพวกของอนันตวงศ์ไป และใช้พัดชีวิตคืนชีวิตให้กับจินดาและงั่ง สุระผัดและนันทเสนแยกตัวกลับและมอบพัดชีวิตให้มณีและจินดาไว้ใช้ ระหว่างนั้นอนันตวงศ์และจักรวรรดิซึ่งตามมาเห็นเหข้า จึงวางแผนปลอมตัวเป็นสุระผัดและนันทเสนจะเข้าไปแย่งพัดชีวิตและจับตัวมณี องค์อิศราเห็นดังนั้นจึงลงมายังโลกมนุษย์พร้อมทั้งมาตุลี โดยมาในร่างมนุษย์วางแผนหลอกจับตัวอนันตวงศ์แและจักรวรรดิได้ แต่อนันตวงศ์เจ้าเล่ห์บอกว่าเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามโลกเช่นองค์อิศรา ควรแล้วหรือที่ใช้อิทธิฤทธิ์มารังแกยักษ์ผู้ต่ำต้อย องค์อิศราจึงเพียงแค่ตักเตือนไม่ให้ทำร้ายผู้อื่น อนันตวงศ์และจักรวรรดิรู้สึกแปลกใจมากที่องค์อิศราถึงกับต้องลงมาปกป้องมณีและจินดาด้วยตนเอง ฝ่ายองค์อิศรากล่าวกับมาตุลีว่าครั้งต่อไปถ้าจะลงไปยังโลกมนุษย์ จะไปอย่างมนุษย์ธรรมดาไม่มีอิทธิฤทธิ์

อนันตวงศ์และจักรวรรดิแปลงตัวเป็นสุะผัดและนันทเสน อ้างว่าเป็นห่วงกลับมาดูแลมณี และหลอกถามคาถากำกับงั่งจากจินดาจับงั่งไปขังไว้ ตกกลางคืนทั้งสองพยายามจะแย่งพัดชีวิตจากมณี ขณะนั้นปรากฏฝนหลงฤดูทำให้จินดาเปลี่ยนร่างเป็นพิรุณ ทั้งสองตกใจหลุดปากทักออกมา มณีจึงรู้ว่าทั้งสองเป็นตัวปลอม เพราะสุระผัดและนันทเสนต่างก็รู้ความเป็นมาของเทพทั้งสามแล้ว จักรวรรดิแย่งพัดชีวิตไปได้ พิรุณสั่นระฆังแก้วเรียกสุระผัด นันทเสนมาช่วย ระหว่างที่ต่อสู้กันงั่งหลุดออกจากที่คุมขัง พิรุณให้งั่งไปหาหัวใจของอนันตวงศ์มาทำลาย งั่งจึงแปลงกายเป็นอนันตวงศ์เข้าเมืองยักษ์ หลอกให้ล่าสัณฑ์คนสนิทของอนันตวงศ์ไปยังสถานที่เก็บหัวใจ ล่าสัณฑ์หลงกลงั่งจึงจับแมลงภู่ที่มีหัวใจของอนันตวงศ์ไปได้ และฆ่าอนันตวงศ์ตาย พิรุณก็ได้ใช้พระขัณฑ์วิเศษต่อสู้กับพัดชีวิตจนพัดชีวิตถูกทำลายเสียหาย พวกของจักรวรรดิจึงหนีไป สุระผัด นันทเสน มณี พิรุณ และงั่งจึงเดินทางต่อไปด้วยกัน

สุระผัดและนันทเสนช่วยเหลือมณีจนกระทั่งท้าวตรีภพรู้ความจริงเรื่องที่ทัศนีย์ใส่ร้ายมณีและลูกๆ และเชื่อเรื่องที่ลูกมีถึง ๓ คนแต่อยู่ในร่างเดียว เนื่องจากองค์อิศราได้บันดาลให้ท้าวตรีภพมองเห็นเทพทั้งสามแยกร่างชั่วขณะ ท้าวตรีภพจึงพามณีและลูกกลับเข้าเมืองอุดม พร้อมทั้งจับพวกของมเหสีทัศนีย์ไว้รอประหาร แต่ทัศนีย์และพวกหนีไปได้

ระหว่างทางที่หลบหนีโคธรรพ์ซึ่งเป็นวัวและบำเพ็ญตบะจนสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ มาเห็นทัศนีย์เข้าก็นึกรัก และลักพาตัวนางไปเป็นเมีย โคธรรพ์เนรมิตรเมืองโคธรรพ์และแต่งตั้งให้ทัศนีย์เป็นมเหสีและรับพวกของทัศนีย์ทั้งหมดมาอยู่ด้วย ทั้งสองมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนเป็นชาย ชื่อว่า สามศรี ทัศนีย์นั้นยังแค้นใจท้าวตรีภพและมเหสีมณีและคิดแก้แค้นอยู่ตลอดเวลา โคธรรพ์สัญญาว่าเมื่อสามศรีเติบโตและได้เรียนวิชาจากตนจนเก่งกล้าจะให้ไปแก้แค้นให้ทัศนีย์ เวลาผ่านไปเทพทั้งสามเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว พิรุณและจินดามีร่างเป็นมนุษย์รูปงาม ส่วนราหูร่างเป็นมนุษย์ที่มีเขี้ยวเป็นยักษ์ แต่ยังคงอยู่ในร่างเดียวกัน

เทพทั้งสามเติบโตขึ้นถึงเวลาต้องเลือกคู่ครอง พิรุณขออนุญาตพ่อแม่ไปหาคู่ครองเอง และได้พบกับนางไม้ลักษณาและอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งฤดูหนาวมาถึง จินดาเมขลาปรากฏร่างและเดินทางต่อไปโดยมีงั่งไปด้วย ระหว่างทางจินดาได้พบกับองค์อิศราและมาตุลีซึ่งลงมายังโลกมนุษย์โดยไม่มีอิทธิฤทธิ์ องค์อิศราจำจินดาได้ แต่จินดาไม่รู้จักเมื่อถึงฤดูร้อนเทพราหูปรากฏร่าง เป็นเวลาเดียวกับที่เมืองโรมวิสัยซึ่งมีท้าวคันธมาศเป็นผู้ครองเมือง มีมเหสีชื่อรัชฎา และมีพระราชธิดา 2 พระองค์ คือ สุวรรณอัมพร และ อัปสรสวรรค์ นอกจากนี้ท้าวคันธมาศยังมีพระขนิษฐาชื่อดวงดารา ยังไม่ได้อภิเษกสมรส ท้าวคันธมาศและมเหสีจึงจัดให้มีงานเลือกคู่ให้พระธิดาโดยการเสี่ยงพวงมาลัย ในขณะเดียวกันนั้นท้าวจักรวรรดิ พร้อมทั้งลูกชาย ปราบไตรจักรและโชตะนา ได้เดินทางมาถึงเมืองโรมวิสัยเพื่อหามนุษย์กิน จักรวรรดิและปราบไตรจักรได้เข้าร่วมพิธีเลือกคู่ด้วย จักรวรรดิหลงใหลในความงามของสุวรรณอัมพร ส่วนปราบไตรจักรนั้นนึกรักอัปสรสวรรค์ และใช้มนต์สะกดให้นางเสี่ยงพวงมาลัยให้ จักรวรรดิก็ใช้มนต์สะกดเช่นกันแต่เนื่องจากพระขนิษฐาของท้าวคันธมาศ(ดวงดารา)อยากเลือกคู่บ้าง เข้ามาแย่งสุวรรณอัมพรเสี่ยงมาลัยจึงได้รับมนต์สะกดแทน และได้ท้าวจักรวรรดิเป็นคู่ มเหสีรัชฏาโกรธที่สุวรรณอัมพรไม่ยอมเสี่ยงพวงมาลัยเลือกคู่ และว่าสุวรรณอัมพรเลือกมาก สุดท้ายสุวรรณอัมพรจึงต้องออกไปเลือกคู่อีกครั้ง ครั้งนี้ราหูและงั่งได้เข้ามาในบริเวณพิธีด้วย ในขณะที่ทุกคนต่างก็กลัวยักษ์และกระหัง สุวรรณอัมพรกลับโยนพวงมาลัยเลือกราหูเป็นคู่ครอง....

มเหสีรัชฎากริ้วสุวรรณอัมพรมากถึงกับขับไล่ออกไปจากวัง ให้ไปใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาอยู่กับราหูที่กระท่อมปลายนา สุวรรณอัมพรน้อยใจแม่พาลโกรธเอากับราหูไม่ยอมให้ราหูอยู่ร่วมห้อง งั่งแนะให้ราหูบอกความจริงให้นางรู้และแสดงร่างที่เป็นมนุษย์ให้ดู แต่ราหูปฏิเสธต้องการให้สุวรรณอัมพรยอมรับตนในร่างที่เป็นยักษ์ ทางด้านจักรวรรดิจำใจต้องแต่งงานกับพระขนิษฐาดวงดารา แต่ในใจยังต้องการได้สุวรรณอัมพรมาเป็นคู่อยู่ตลอดเวลา ปราบไตรจักรเข้าหอกับอัปสรสวรรค์แต่เพราะตนเป็นยักษ์และอัปสรสวรรค์คือคู่ของพระพิรุณซึ่งเป็นเทพ ทำให้ไม่สามารถแตะต้องตัวนางได้ เมื่อจับต้องจะรู้สึกร้อนราวกับถูกไฟเผา ปราบไตรจักรจึงแต่งเรื่องว่าฝึกวิชาอาคมและต้องรักษาพรหมจรรย์ จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับนางฉันท์สามีภรรยาได้ อัปสรนึกน้อยใจแต่ก็ยอมรับฟัง ส่วนโชตะนาที่ตามท้าวจักรวรรดิและปราบไตรจักรมา ได้เห็นราหูในพิธีเลือกคู่ก็นึกรัก ต้องการได้มาเป็นคู่ครอง ปราบไตรจักรจึงออกอุบายว่า โชตะนาเป็นน้องสาวคนสุดท้องของตน (หลังจากที่ได้โกหกว่าท้าวจักรวรรดิเป็นพี่ชายคนโต) ให้เข้ามาอยู่ในวังด้วยกัน ทั้งสามหาทางแยกราหูกับสุวรรณอัมพรจากกัน เพื่อพวกตนจะได้สมหวัง

สุวรรณอัมพรแสดงท่าทางรังเกียจราหูอย่างเห็นได้ชัด ส่วนงั่งก็คอยแต่ยุยงให้ทั้งสองผิดใจกัน เพื่อราหูจะได้กลับบ้านกลับเมือง ใกล้จะถึงฤดูฝนราหูจะต้องกลายร่างเป็นพิรุณ ราหูไปลาสุวรรณอัมพรบอกว่าจะต้องกลับบ้านแต่อัมพรไม่สนใจ กลางดึกคืนหนึ่งฝนแรกตกลงมา พิรุณจึงปรากฏร่าง เป็นเวลาเดียวกับที่จักรวรรดิต้องการมาลักพาตัวสุวรรณอัมพรและจะทำร้ายราหู พิรุณเข้าต่อสู้กับจักรวรรดิและขับไล่จักรวรรดิไป งั่งวางแผนให้สุวรรณอัมพรรู้จักกับพิรุณเพื่อจะแกล้งราหู แต่พิรุณกลับหลงรักอัปสรสวรรค์ตั้งแต่แรกพบ ปราบไตรจักรต้องพาจักรวรรดิกลับไปเมืองยักษ์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจึงต้องทิ้งอัปสรสวรรค์ไว้ องค์อิศราและมาตุเดินทางมาถึงเมืองโรมวิสัยด้วยและได้พักอยู่บริเวณใกล้ๆกับกระท่อมของราหู-สุวรรณอัมพร ทางด้านลักษณามีลูกชายกับพิรุณชื่อทุมมา เติบโตเร็วกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป และพากันออกเดินทางเพื่อตามหาพิรุณ ในขณะที่สามศรีก็เติบโตเป็นหนุ่มมีวิชาเก่งกล้า ถูกทัศนีย์สั่งสอนให้เกลียดชังมณีและท้าวตรีภพคิดจะกลับไปแก้แค้นพวกของท้าวตรีภพ



ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/เทพสามฤดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทพสามฤดู

เทพสามฤดู   เป็นนิทาน พื้นบ้านของไทย ปรากฏเป็นหนังสือครั้งแรก โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์วัดเกาะ   เคย ถูกสร้างเป็นละคร  ในปี 2517 ในชื่อ ฝนสามฤดู ...