วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

โคบุตร

วรรณคดี เรื่องโคบุตร มีเนื้อหาสนุกสนาน น่าอ่านมีหลายอรรถรส

    วรรณคดีเรื่อง โคบุตร เป็นนิทานเรื่องแรกที่สุนทรภู่แต่งขึ้น และยังเป็นนิทานเรื่องแรก ที่แต่งโดยคำกลอน ซึ่งก่อนหน้านั้น นิทานส่วนใหญ่จะแต่งเป็นร่ายบ้าง ลิลิตบ้าง
           สำหรับเรื่องโคบุตรนี้ เรื่องราวเริ่มต้นที่ พระอาทิตย์ ได้ลงมามีความสัมพันธ์กับเทพธิดาในดอกบัวจนเกิดโอรส ด้วยกฎแห่งสวรรค์ ทำให้พระอาทิตย์ไม่สามารถเลี้ยงดูโอรสได้ จึงได้นำโอรสน้อยมาฝากให้ราชสีห์สองผัวเมียช่วยเลี้ยงดู
ราชสีห์สองผัวเมียเลี้ยงดูโอรสของพระอาทิตย์จนเจริญวัย จนวันหนึ่ง พระอาทิตย์ก็ได้ปรากฏองค์ขึ้น พร้อมกับพระราชทานนามให้โอรสน้อยว่า โคบุตร และยังได้มอบเครื่องทรงกับสร้อยสังวาล และลูกแก้ววิเศษที่ทำให้เหาะได้ให้พระโคบุตร
            พระอาทิตย์ได้ให้พระโคบุตรผู้เป็นโอรสออกท่องไปในโลกกว้างเพื่อหาเมืองเพื่อขึ้นปกครอง พระโคบุตรจึงออกเดินทางทันที โดยที่ราชสีห์ได้มอบผงยาวิเศษที่ใช้ชุบชีวิตคนขึ้นมาได้ให้พระโคบุตรด้วย
ณกุมารผู้เป็นอนุชากำลังจะถูกยักษ์สี่ตนทำร้าย จึงได้เข้าไปช่วยและฆ่ายักษ์ทั้งสี่ตนตาย 
             เจ้าหญิงมณีสาครได้เล่าว่า ตนและพระอนุชาเป็นโอรสและธิดาของ ท้าวพรหมทัต และพระนางปทุมทัศ แห่งนครพาราณสี แต่ได้มีปุโรหิตชั่วคนหนึ่ง สมคบคิดกับลูกชายโค่นล้มราชบัลลังก์และปลงพระชนม์ท้าวพรหมทัตกับพระนางปทุมทัศสิ้นพระชนม์ ส่วนตนและพระอรุณกุมารหนีออกมาได้ พระโคบุตรจึงได้อาสาที่กู้ราชบัลลังก์กลับคืนมาให้ นอกจากนี้ พระโคบุตรยังได้นำผงยาวิเศษที่ได้จากราชสีห์ชุบชีวิตยักษ์สี่ตนขึ้นมาเพื่อให้ช่วยในการนี้ด้วย
พระโคบุตรกอบกู้ราชบัลลังก์แห่งเมืองพาราณสีกลับคืนมาได้สำเร็จ และชุบชีวิตท้าวพรหมทัตกับพระนางปทุมทัศขึ้นมา ทำให้ทั้งสองพระองค์ซึ้งในน้ำใจของพระโคบุตรยิ่งนัก จึงได้รับพระโคบุตรเป็นลูกบุญธรรม
             พระโคบุตรอาศัยในเมืองพาราณสีได้ปีกว่าๆ ก็ออกเดินทางอีกครั้ง โดยคราวนี้ พระอรุณกุมารได้ขอติดตามไปด้วย
             ทั้งสองออกได้เหาะข้ามทะเล และได้พบกับ ยักษ์หัสกัณฐ์มัจฉา ซึ่งเป็นยักษ์ครึ่งปลา มี ๒๐ มือ หมายจะทำร้าย จึงได้เกิดการต่อสู้กัน แต่พระโคบุตรไม่สามารถฆ่าหัสกัณฐ์มัจฉาได้ เทวดาจึงปรากฏกายขึ้น และบอกพระโคบุตรว่า หัสกัณฐ์มัจฉาเคยได้พรว่าต้องตายด้วยน้ำมือของสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น และในบริเวณไม่ไกลจากนั้น มีฝูงลิงอาศัยอยู่ ให้พระโคบุตรไปตามพญาลิงเผือกซึ่งเป็นจ่าฝูงมา
พระโคบุตรไปตามพญาลิงเผือกมา และมอบแหวนวิเศษให้ พญาลิงเผือกจึงขว้างแหวนวิเศษนั้นใส่หัสกัณฐ์มัจฉา ถึงแก่ความตายทันที
            หลังจากนั้น พระโคบุตรและพระอรุณกุมารก็อาศัยอยู่กับฝูงลิงจนเติบโตเป็นหนุ่ม จึงลาฝูงลิงและออกเดินทางต่อ
            พระโคบุตรและพระอรุณกุมารออกเดินทางมาจนถึงเมืองกาหลง ของท้าวหลวิราช ซึ่งท้าวหลวิราชมีธิดานามว่า นางอำพันมาลา เลิศด้วยสิริโฉมยิ่งนัก พระโคบุตรหลงรักนางแต่แรกเห็น และได้พานางหนีออกมา
             พระโคบุตร นางอำพันมาลา และพระอรุณกุมารได้เดินทางกลับสู่เมืองพาราณสีอีกครั้ง ซึ่งท้าวพรหมทัต เตรียมจะยกราชบัลลังก์ให้แก่พระโคบุตร แต่พระโคบุตรกล่าวว่า ตนมิได้มีเชื้อสายแห่งนครพาราณสีแต่กำเนิด ราชบัลลังก์แห่งเมืองพาราณสีควรจะเป็นของพระอรุณกุมารมากกว่า
พระอาทิตย์ผู้เป็นบิดาเห็นดังนั้น จึงได้สร้างเมืองใหม่ให้พระโคบุตรปกครอง ชื่อว่า เมืองปราการบรรพต โดยมีนางอำพันมาลา และนางมณีสาครเป็นมเหสีอยู่เคียงข้าง
             หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว พระโคบุตรก็เอาแต่หลงใหลนางมณีสาคร จนนางอำพันมาลาที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เกิดความอิจฉายิ่งนัก นางสร้อย ซึ่งเป็นนางรับใช้ของนางอำพันมาลาจึงได้ไปหา เถรกระอำ พระจอมขมังเวทย์ให้ช่วยทำเสน่ห์ให้พระโคบุตรหลงใหลนางอำพันมาลา และพิธีก็ได้ผล พระโคบุตรเอาแต่หลงใหลนางอำพันมาลาจนไม่สนใจกิจการงานเมือง
             จนกระทั่งความจริงปรากฏ พระโคบุตรก็ทรงกริ้วมาก และเนรเทศนางอำพันมาลาออกจากเมือง ซึ่งนางอำพันมาลาได้รอนแรมอยู่ในป่าจนสลบไป
หลังจากนางอำพันมาลาสลบอยู่กลางป่า ราชสีห์ที่เลี้ยงดูพระโคบุตรเมื่อครั้งเยาว์วัยมาพบเข้า จึงได้พาไปอาศัยอยู่ด้วยจนนางให้กำเนิดโอรสที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายพระโคบุตรยิ่งนัก ด้วยความสงสัย ราชสีห์จึงได้ถามจนทราบความว่าเรื่องมีที่มาอย่างไร ราชสีห์จึงพานางอำพันมาลาไปเข้าเฝ้าพระโคบุตรทันที
         เมื่อได้เห็นหน้าโอรสน้อย พระโคบุตรก็ใจอ่อน จึงรับนางอำพันมาลาซึ่งสำนึกผิดแล้วและพระโอรสกลับเข้ามาอยู่ในเมือง ซึ่งขณะนั้น นางมณีสาครเองก็มีโอรสน้อยเช่นกัน พระโคบุตรจึงตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางมณีสาครว่า มณีสุริยัน และตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางอำพันมาลาว่า อำพันสุริยา
กล่าวถึง ตะวันยักษ์นาคา สหายของหัสกัณฐ์มัจฉา เกิดความแค้นที่พระโคบุตรสังหารสหายของตน จึงได้ส่ง นางมณีกลีบสมุทร ซึ่งเป็นธิดา ให้ไปจับตัวพระโคบุตรมาให้ตนสังหารเสีย ซึ่งนางมณีกลีบสมุทรได้แปลงกายเป็นสาวสวยเข้ามายั่วยวนจนพระโคบุตรหลงใหล
         วันเวลาผ่านไปจนนางมณีกลีบสมุทรตั้งครรภ์อ่อนๆ ก็นึกถึงหน้าที่บิดาของตนสั่งมาได้ จึงจับตัวพระโคบุตรไปให้ตะวันยักษ์นาคา แต่ก็ขอร้องให้บิดาไว้ชีวิตพระโคบุตรด้วย เพื่อเห็นแก่ลูกในท้องของตน ในที่สุด ตะวันยักษ์นาคาก็ใจอ่อน จึงยอมปล่อยพระโคบุตรไป
         พระโคบุตรและมเหสีทั้งสามจึงปกครองเมืองปราการบรรพตสงบสุขนับแต่นั้นมา

เทพสามฤดู

เทพสามฤดู   เป็นนิทาน พื้นบ้านของไทย ปรากฏเป็นหนังสือครั้งแรก โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์วัดเกาะ   เคย ถูกสร้างเป็นละคร  ในปี 2517 ในชื่อ ฝนสามฤดู ...